วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แยมกล้วยกินกับอะไรก็อร่อย

Hello วันนี้เรามีสูตรแยมกล้วยดีดี ที่อยากให้ทุกคนนำไปทำตามกันนะคะ
ส่วนผสม
1. กล้วย 3 ผล
2. น้ำตาล 1 ถ้วย
3.นำ้เปล่า 1/3 ถ้วย
วิธีทำ
1.สไลด์กล้วยเป็นชิ้นบางๆ

2.นำน้ำตาลไปตั้งไฟให้ละลายจนกลายเป็นสีน้ำตาล (ต้องคอยดูตลอดเวลานะ)

3.เมื่อน้ำตาลกลายเป็นสีน้ำตาลแล้ว ให้เติมกล้วยที่สไลด์ไว้ลงไป

4.กวนส่วนผสมไปเรื่่อยๆด้วยไฟอ่อนๆ เมื่อไม่เห็นกล้วยเป็นชิ้นแล้ว ก็ปิดไฟได้เลย

เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย สามารถนำไปเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้คนพิเศษได้

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คุณทราบหรือไม่ว่ากล้วยมีประโยชน์อย่างไร??

ประโยชน์ของการกินกล้วย

ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันทีแล้วค่อยแปรงฟัน และถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าจะยิ่งช่วยลดกลิ่นปากได้ดีขึ้น
กล้วย ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี
ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยทำให้มีเกิดสมาธิและมีการตื่นตัวตลอดเวลา
กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ตัวของร่างกายนั่นเอง
กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือกช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร
สำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือคำตออบสำหรับคุณ
อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน
ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจำเดือนมา
ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้ำตาลที่ร่างกายขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์
เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการอยากเลิกสูบบุหรี่ เพราะในกล้วยมีวิตามินเอ ซี บี6 บี12 โพรแทสเซียม และแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการเลิกนิโคติน
ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างปกติ
ช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร หรือในขณะขับถ่ายจะมีเลือดออกมา
ช่วยลดอาการเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะ การกินกล้วยจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากอาการนี้ได้
ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาดกำลัง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดเส้นโลหิตแตกได้
สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ การรับประทานกล้วยบ่อย ๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง มีความนิ่มและเส้นใยสูง
ช่วยรักษาแผลในลำไส้เรื้อรัง เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง ทำให้ไม่เกิดการละคายเคืองในผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย
ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ภาวะความเครียด เพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งที่เรียกว่า Tryptophan ซึ่งช่วยในการผลิตสาร Serotonin หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุข จึงส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องของมารดาลงได้
ประโยชน์ของกล้วย
กล้วยก็สามารถนำมาทำเป็นมาส์กหน้าได้เหมือนกันนะ โดยจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ช่วยลดความหยาบกร้านบนผิว วิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้กล้วยสุกหนึ่งผลมาบดให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคลุกให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
เปลือกกล้วยสามารถแก้ผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้ ด้วยการลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด อาการคันจะลดลงไปได้ระดับหนึ่ง
เปลือกด้านในของกล้วยช่วยในการรักษาโรคหูดบนผิวหนังได้ โดยใช้เปลือกกล้วยวางปดลงบริเวณหูดแล้วใช้เทปแปะไว้
เปลือกกล้วยด้านในช่วยฆ่าเชื้อ ที่เกิดจากบาดแผลได้เหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามเมื่อแปะที่บาดแผลแล้วก็ควรจะเปลี่ยนเปลือกใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมงด้วย
ยางกล้วยสามารถนำมาใช้ในการห้ามเลือดได้
ก้านใบตอง ช่วยลดอาการบวมของฝี แต่ก่อนใช้ต้องตำให้แหลกเสียก่อน
ใบอ่อนของกล้วย หากนำไปอังไฟให้นิ่ม ก็ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ดขัดยอกได้
หัวปลี นำมารับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงและขับน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร
ผลดิบนำมาบดให้ละเอียดทั้งลูกผสมกับน้ำสะอาด รับประทานเพื่อแก้อาการท้องเสีย
ใบตอง อีกส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์กันอย่างมาก เช่น กระทง ห่อขนม ห่ออาหาร ทำบายศรี บวงสรวงต่าง ๆ

คุณทราบหรือไม่ว่ากล้วยมีประโยชน์อย่างไร??

ประโยชน์ของการกินกล้วย

ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันทีแล้วค่อยแปรงฟัน และถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าจะยิ่งช่วยลดกลิ่นปากได้ดีขึ้น
กล้วย ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี
ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยทำให้มีเกิดสมาธิและมีการตื่นตัวตลอดเวลา
กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ตัวของร่างกายนั่นเอง
กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือกช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร
สำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือคำตออบสำหรับคุณ
อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน
ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจำเดือนมา
ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้ำตาลที่ร่างกายขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์
เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการอยากเลิกสูบบุหรี่ เพราะในกล้วยมีวิตามินเอ ซี บี6 บี12 โพรแทสเซียม และแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นจากการเลิกนิโคติน
ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยและกากอาหารซึ่งจะช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างปกติ
ช่วยบรรเทาอาการของริดสีดวงทวาร หรือในขณะขับถ่ายจะมีเลือดออกมา
ช่วยลดอาการเสียดท้อง ลดกรดในกระเพาะ การกินกล้วยจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากอาการนี้ได้
ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด เพื่อรักษาภาวะโลหิตจางหรือผู้ที่อยู่ในสภาวะขาดกำลัง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดฝอยแตกได้
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดเส้นโลหิตแตกได้
สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ การรับประทานกล้วยบ่อย ๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง มีความนิ่มและเส้นใยสูง
ช่วยรักษาแผลในลำไส้เรื้อรัง เพราะกล้วยมีสภาพเป็นกลาง ทำให้ไม่เกิดการละคายเคืองในผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย
ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ภาวะความเครียด เพราะกล้วยมีโปรตีนชิดหนึ่งที่เรียกว่า Tryptophan ซึ่งช่วยในการผลิตสาร Serotonin หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุข จึงส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องของมารดาลงได้
ประโยชน์ของกล้วย
กล้วยก็สามารถนำมาทำเป็นมาส์กหน้าได้เหมือนกันนะ โดยจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ช่วยลดความหยาบกร้านบนผิว วิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้กล้วยสุกหนึ่งผลมาบดให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคลุกให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
เปลือกกล้วยสามารถแก้ผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้ ด้วยการลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด อาการคันจะลดลงไปได้ระดับหนึ่ง
เปลือกด้านในของกล้วยช่วยในการรักษาโรคหูดบนผิวหนังได้ โดยใช้เปลือกกล้วยวางปดลงบริเวณหูดแล้วใช้เทปแปะไว้
เปลือกกล้วยด้านในช่วยฆ่าเชื้อ ที่เกิดจากบาดแผลได้เหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามเมื่อแปะที่บาดแผลแล้วก็ควรจะเปลี่ยนเปลือกใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมงด้วย
ยางกล้วยสามารถนำมาใช้ในการห้ามเลือดได้
ก้านใบตอง ช่วยลดอาการบวมของฝี แต่ก่อนใช้ต้องตำให้แหลกเสียก่อน
ใบอ่อนของกล้วย หากนำไปอังไฟให้นิ่ม ก็ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ดขัดยอกได้
หัวปลี นำมารับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงและขับน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร
ผลดิบนำมาบดให้ละเอียดทั้งลูกผสมกับน้ำสะอาด รับประทานเพื่อแก้อาการท้องเสีย
ใบตอง อีกส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์กันอย่างมาก เช่น กระทง ห่อขนม ห่ออาหาร ทำบายศรี บวงสรวงต่าง ๆ

โครงร่างโครงงาน

โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง แยมกล้วย
ผู้จัดทำ
1.นายวีรภัทร เนตรประไพกุล ชั้น ม.5/2 เลขที่ 11
2.นายพงศ์พันธุ์ ไพโรจน์ ชั้น ม.5/2 เลขที่ 14
3.นางสาวสมิตา บุญราวิกุล ชั้น ม.5/2 เลขที่ 35
4.นางสาวศุภานัน กุลศิริ ชั้น ม.5/2 เลขที่ 41
5.นางสาวขัตติยา ยิ้มแก้ว ชั้น ม.5/2 เลขที่ 42
6.นายสิริภพ เมฆสว่าง ชั้น ม.5/2 เลขที่ 43
7.นายทักษิณ ดารา ชั้น ม.5/2 เลขที่ 45
8.นางสาวนิปัทม์ โตเจริญ ชั้น ม.5/2 เลขที่ 46
ครูที่ปรึกษา
มิส เขมจิรา ปลงไสว
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
กล้วยเป็นอาหารที่นิยมบริโภคในประเทศมีคุณค่าทางอาหาร เหมาะสมสำหรับการรับประทานเป็นอาหารทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำค่อนข้างง่ายกล้วยเป็นพืชพื้นบ้านของไทยทีถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทุกสมัย เพราะทุกส่วนของกล้วยสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม ของตกแต่ง กระทง หรือภาชนะช่วงนี้ประเทศไทยเกือบทุกภาค จะมีฝนฟ้าตกกระจายทั่วไป ผลผลิตกล้วยนานาชนิดให้ผลมากมายบางครั้งรับประทานสุกไม่ทัน ขอแนะนำให้ท่านผู้สนใจทดลองแปรรูปกล้วยแบบง่ายๆ ตามที่ภูมิปัญญาไทยได้ตกทอดมาให้จนถึงรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน ทำง่ายๆ หากทำคล่องดีแล้ว ก็สามารถผลิตเป็นอาชีพเสริมรายได้เป็นอย่างดี
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาเรื่องแยม
2. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับกล้วย
3. เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารจากสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตซึ่งสามารถทำแยมได้
4. เพื่อนำความรู้จากการศึกษาเป็นอาชีพในอนาคตได้
5. เพื่อศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่น
ขอบเขตของโครงงาน
ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับการทำแยมหนังสือเกี่ยวกับอาหาร
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
วิธีดำเนินงาน
ส่วนผสม แยมกล้วย
กล้วย1 กิโลกรัม
น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 400 กรัม
เจลาตินชนิดแผ่น 3 แผ่น (แช่น้ำเย็นจนนิ่ม)
วิธีทำแยมกล้วย
1. ใส่กล้วยที่หันแล้วลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ จากนั้นเติมน้ำลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ต้มให้เดือดและหมั่นคนเป็นระยะ ๆ เคี่ยวจนกล้วยเริ่มนิ่ม
2. เคี่ยวน้ำต่อจนเริ่มงวด (วิธีสังเกตคือ ยกไม้พายขึ้นจะไม่เป็นหยดแต่จะเป็นเส้นหนืด ๆ) แล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา
3. ใส่เจลาตินแผ่นที่แช่น้ำเย็นจนนิ่มแล้วลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากันดี
4. หากต้องการให้เนื้อแยมเป็นลิ่มหรือแน่นกว่านี้ให้เพิ่มเจลาตินลงไปได้ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะแล้วนำแช่ตู้เย็น
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้แยมกล้วยจากการทำโครงงาน
2. ได้นำไปพัตนาต่อ
แผนการกำหนดเวลาปฏิบัติงาน
4กันยายน 2559 เริ่มทำแยมกล้วย
5กันยายน 2559 ทำแยมเสร็จ
6กันยายน 2559 สรุปโครงงาน
เอกสารอ้างอิง
https://sites.google.com/site/klwychab45/bth-thi-3
https://www.l3nr.org/posts/442501